Topics
1.สมาชิกกลุ่ม
2.แนวคิดหลักของโครงงาน
3.ผลงานสุดท้าย
4.เครื่องมือที่ใช้
5.โมเดล ฉาก
6.เทคนิคที่ใช้
7.จุดเด่น
8.ค่าใช้จ่าย
Member
4630077021 นายจักรพงศ์ นาคเดช
4630119721 นายชวิน นิจพาณิชย์
4630159821 นายณัชพล ฟูตระกูล
4630171221 นายณัฐนนท์ เส้งนนท์
4630239321 นายธัชนันท์ สังข์อ่อง
4631207421 นายชาญณรงค์ หาญประยงค์
4631215421 นายนิรินธน์ เสือรอด
4631227021 นายยุทธนา สุทธสุภา
4631228621 นายรพี สุวีรานนท์
Hilights
- ใช้กล้องตัวเดียว ไม่มีการตัดฉาก (Long Shot)
- การจำลองการเคลื่อนไหวของดอกไม้ ใบไม้ หิมะ ตามแรงลม
Tools
1.Maya 8.0
2.Adobe After Effects 6.5
3.Adobe Photoshop CS2
4.Sony Vegas 7
5.Adobe Audition 1.5
Compositions
Paint Effects
ต้นไม้
แม่น้ำ
Particles
หิมะ
Texture
เท็กซ์เจอร์ใช้หลายๆชั้นมารวมกัน ได้แก่
1.พื้นหญ้า
2.พื้นดิน
3.หิน
4.หญ้าผสมหิน
แล้วใช้ Transparency Map ในการเลือก blend ระหว่างแต่ละลาย
และใช้ Bump Map ช่วยเพิ่มความลึก
Script
สำหรับ Script ที่ใช้ใน Animation จะมี 2 ส่วน คือ
- 1. Script ส่วนควบคุมการปลิวของดอกไม้ร่วง
2. Script ส่วนควบคุมการปลิวของใบไม้ร่วง
สาเหตุที่ต้องใช้ Script ในการควบคุมเนื่องจากใบไม้และดอกไม้ที่ร่วง มีเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถ กำหนดการเคลื่อนไหวให้กับใบไม้และดอกไม้ได้ทั้งหมด และเพื่อให้เกิดความสมจริงจึงได้ใช้ Mel Script ในการควบคุมการเคลื่อนไหวโดยยึดตามกฏทางฟิสิกส์ เป็นหลัก
Script ที่ใช้ใน Animation ทั้งสองส่วนนั้นถึงแม้รูปร่างของวัตถุจะไม่เหมือนกันแต่ในที่นี้เพื่อความง่ายจึงจะใช้ Script แบบเดียวกันในการควบคุม โดยจะยึดการปลิวของใบไม้ร่วงเป็นหลัก
การทำงาน
1. ในขั้นแรกเราจะสมมุติ Model ใบไม้ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีแกน normal ตั้งฉากกับระนาบ และมีจุดศูนย์กลางมวลอยู่ตรงกลาง ดังรูป
2. หาค่าแรงต้านอากาศได้จากการประมาณจากกฏของสโตก
(F = 6*Pi*n*r*v) ซึ่งจะหาได้จาก
F = Normal * (k*dot(Normal, Velocity)*(Width + Height)/4) โดย k เป็นค่าคงที่ที่เหมาะสม
3. ทำการสุ่มจุด (R) ที่แรงจะกระทำโดยสุ่มจากจุดบนสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยให้จุด cg เป็นจุด Origin และเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลในแต่ละ Frame จึงได้นำ R ที่ได้ไป Weight กับ R เก่า ดังสมการ
R = ROld*0.9 + R*0.1
โดยการสุ่มจะพยายามให้ใบไม้คงสภาพใบหงายมากที่สุด
4. แรงที่กระทำกับใบในแต่ละ Frame ก็คือ F + Mass*Gravity และ Torque ก็คือ cross(R,F)
5. หาความเร่งของใบได้จาก Acc = F/Mass และความเร่งเชิงมุมได้จาก AngAcc = F/Moment of Inertia
6. นำความเร่งทั้งสองที่ได้ไปปรับการเคลื่อนที่จากสมการ
dS = Velocity*dt + Acc*dt*dt/2
dTheta = AngVelocity*dt + AngAcc *dt*dt/2
Cost
production cost
เฟรมละ 30s
skybox 1400
ground 1400
tree 1400
snow 700
total 4900
20% 980
5880 frames
5880 x 30 = 176,400 s
49 hours
cost 49 x 1000 = 49,000 baht
labor cost
ผู้พัฒนา 9 คน
ช่วงเวลาที่พัฒนา 10 วัน
ค่าจ้างต่อวัน 1500 บาทต่อวันต่อคน
รวม 1500 x 9 x 10 = 135,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 184,000 บาท